ระดับการคั่วกาแฟสำคัญแค่ไหน
ปกติแล้วหากเราซื้อกาแฟดื่มตามคาเฟ่กาแฟทั่วไป อาจจะไม่ค่อยการพบเห็นระดับของการคั่วกาแฟให้เราเลือกตามร้านต่างๆ จะมีก็เพียงแค่รายชื่อเมนูที่มีให้เราเลือกสรรมากมายแค่นั้นเอง
ในอดีตช่วงแรกๆ ที่ทางประเทศไทย เริ่มมีผู้สนใจอยากจะเปิดร้านกาแฟขาย เคยมีร้านกาแฟ ที่มีระดับของการคั่วกาแฟให้แก่ลูกค้าได้เลือกด้วย
แต่ในปัจจุบันนี้ กลับไม่พบเห็น ระดับของการคั่วกาแฟ ให้ลูกค้าเลือกจากร้าน ถึงแม้ว่าจะมีร้านกาแฟสดเกิดขึ้นมากมายก็ตาม
เหตุผลหนึ่งนั้นอาจจะเป็นเพราะแบรนด์ต่าง ๆ ก็มีสูตรคั่วกาแฟในอุณหภูมิที่ตนเองกำหนดแล้วด้วยส่วนหนึ่ง และอาจจะเป็นการทำการตลาดมาแล้วว่ากาแฟคั่วระดับปกติ ก็สามารถสร้างสรรค์รสชาติที่ดีให้แก่ลูกค้าได้
แต่สำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบการคั่วกาแฟในระดับต่างๆ ที่ไม่เหมือนกับการซื้อจากคาเฟ่กาแฟนั้น สามารถเลือกซื้อได้ แต่อาจจะยากสักหน่อย ส่วนมากจะซื้อผ่านทางออนไลน์
ซึ่งการคั่วกาแฟในระดับต่างๆ มีดังนี้
- กาแฟคั่วอ่อน
เป็นกาแฟที่คั่วในระดับที่ไฟไม่แรงมากและใช้เวลาไม่นาน สีของเมล็ดกาแฟที่คั่วได้จึงไม่ได้เข้มมาก จะมีสีอ่อน แต่ขอบอกว่ากาแฟคั่วอ่อนนี้แหละที่ทำให้ตาสว่างมากที่สุด เนื่องจากจะมีคาเฟอีนอยู่ในการคั่วกาแฟระดับนี้มากที่สุด เนื่องด้วยความร้อนไม่ได้เผาผลาญคาเฟอีนให้หายออกไปเยอะ ดังนั้นสำหรับคนที่ดื่มกาแฟไม่เก่งก็ไม่ควรจะเลือกกาแฟคั่วอ่อน ถึงแม้ว่ารสชาติของกาแฟคั่วอ่อนจะอร่อยที่สุดก็ตาม
- กาแฟคั่วกลาง
ปัจจุบันนี้พบกาแฟคั่วกลาง ที่ผลิตออกมาขายในโลกออนไลน์หรือตามร้านขายเมล็ดกาแฟไม่มากนัก ส่วนใหญ่มักจะทำคั่วอ่อน แล้วข้ามไปคั่วเข้มเลย
แต่กาแฟคั่วกลางจะดีสำหรับผู้ที่คอแข็งและใจแข็งแล้วในระดับหนึ่ง แล้วที่สำคัญกาแฟคั่วกลางนี้ รสชาติจะนุ่ม ละมุนมากกว่ากาแฟคั่วเข้ม ถ้าชอบกาแฟคั่วกลางยังไงก็ไม่ควรดื่มเยอะ โดยเฉพาะหลังบ่ายเพราะว่าคาเฟอีนก็ยังมีอยู่ในกาแฟระดับคั่วกลางเยอะเช่นกัน
- กาแฟคั่วเข้ม
สีของเมล็ดกาแฟที่คั่วในระดับเข้มนี้จะได้สีที่ดำเข้มและเกรียม และก็ยังเป็นกาแฟที่จะมีรสชาติเข้มข้นมาก เนื่องจากผ่านกระบวนการความร้อนและการคั่วที่ยาวนานและไฟอาจจะแรงด้วย กลิ่นไหม้จากการคั่วก็มีผลที่ทำให้รสชาติกาแฟขมเข้ม
แต่ถึงแม้กาแฟคั่วเข้มนี้จะมีรสชาติที่เข้มข้นก็จริง สิ่งที่ตรงกันข้ามคือคาเฟอีนจะลดน้อยลง เนื่องจากความร้อนที่เผาผลาญคาเฟอีนให้ระเหยออกไปค่อนข้างเยอะจากกระบวนการคั่วกาแฟนั่นเอง