วิธีชงกาแฟสด
สำหรับใครที่ชื่นชอบรับประทานกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ก็ต้องทราบถึงวิธีการชงกาแฟต่างๆ ที่แบ่งออกมาเป็นหลากหลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมและเข้ากับเครื่องดื่มมากที่สุด เพราะในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ได้หันมาบริโภคดื่มกาแฟกันเป็นจำนวนมาก จนทำให้กลายเป็นช่วงหนึ่งที่เป็นกระแสฮิตมาแรงเลย ในเรื่องของวิธีการทำกาแฟบ้าง วิธีการชงกาแฟสดบ้าง รวมไปถึงการซื้อและจำหน่ายอุปกรณ์การดริปกาแฟ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ก็ทำให้ผู้คนหันมาสนใจถึงวิธีในการชงกาแฟสดแบบจริงจัง ว่าแท้จริงแล้วมีขั้นตอนการทำอย่างไร และเครื่องดื่มแบบไหนที่เหมาะกับขั้นตอนในการชงกาแฟบ้าง ซึ่งหลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ และสำหรับ “วิธีการชงกาแฟสด” แบบจริงจังตามขั้นตอนเลย ก็จะมีดังนี้
- Frence Press : เป็นวิธีการชงกาแฟสดแบบสไตล์ฝรั่งเศส คือจะใช้เมล็ดกาแฟสดบดใส่ลงไปในกา จากนั้นนำน้ำร้อน เทใส่ลงไปพร้อมปิดฝา ประมาณ 4 นาที และค่อยๆกดเมล็ดกาแฟลง เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำกาแฟที่มีรสชาติที่เข้มข้น และได้รับความหอมจากน้ำมันเมล็ดกาแฟ
- Aeropress : เป็นวิธีการชงกาแฟสดด้วยแรงดันอากาศ คือจะเป็นการนำฟิลเตอร์กรองไปวางลงกระบอก และนำกาแฟที่บดแล้วใส่ลงไปในกระบอก พร้อมรินน้ำตามครึ่งหนึ่ง โดยจะเป็นการใช้แรงดันอากาศดันน้ำร้อนให้ผ่านกาแฟ เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำกาแฟออกมา ประมาณ 1 นาที จะได้รสชาติกาแฟดำที่เข้มข้น
- Drip : เป็นวิธีการชงแบบดริป โดยการเทน้ำร้อนลงบนตัวกาแฟบด ที่มีกระดาษกรองคอยวางอยู่บนกาคอห่าน จะค่อยๆรินอย่างช้าลักษณะแบบวนเข็มนาฬิกา ประมาณ 1-3 นาที จะช่วยทำให้กาแฟมีรสชาติที่นุ่มลิ้น ได้กลิ่นความหอมจากตัวกาแฟ
- Espresso : เป็นวิธีการชงที่ได้รับความนิยมแถวยุโรปตอนใต้ คือการที่นำเมล็ดกาแฟคั่วที่เกิดจากการบดเป็นผงละเอียดแล้ว มาใส่ลงไปในเครื่องชงกาแฟโดยใช้แรงอัดไอน้ำร้อนให้ผ่านตัวกาแฟ เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำไหลออกมา จะได้รสชาติที่เข้มข้น โดยส่วนมากมักจะเสิร์ฟในรูปแบบช็อต
- Moka Pot : เป็นวิธีการชงแบบไสตล์อิตาเลียน คือการนำผงกาแฟที่บดแล้วใส่ลงไปในกรวยหม้อต้ม ทำการปิดฝาและนำไปตั้งบนเตาแก๊ส เพื่อให้ไอน้ำดันตัวขึ้นมาผ่านกาแฟ จะใช้เวลาในการทำประมาณ 5 นาที ได้รสชาติความเข้มข้นที่ออกหวานนิดๆบริเวณปลาย
- Syphon : เป็นวิธีการชงแบบสูญญากาศ คือนำน้ำใส่ลงหม้อและจุดตะเกียงที่หม้อต้ม จากนั้นจะนำเมล็ดกาแฟใส่ลงไป และทำการคนไปเรื่อยๆ ให้น้ำกับเมล็ดกาแฟเข้ากัน โยจะผ่านไหลจากตัวกรองไปที่หม้อด้านล่าง
