เรื่องกาแฟล่าสุด

ความแตกต่างของระดับการคั่วกาแฟ

ความแตกต่างของระดับการคั่วกาแฟ เมื่อเราไปยังร้านกาแฟชั้นนำต่าง ๆ สิ่งแรกที่เรามักจะได้ยิน หรือ มองเห็นคือ ระดับของการคั่วกาแฟ

ความแตกต่างของระดับการคั่วกาแฟ

เมื่อเราไปยังร้านกาแฟชั้นนำต่าง ๆ สิ่งแรกที่เรามักจะได้ยิน หรือ มองเห็นคือ ระดับของการคั่วกาแฟ ที่มีความแตกต่างกันออกไป ระดับการคั่วกาแฟ หรือ ที่เราเรียกกันว่า Roast Level  หลายๆคนอาจจะเกิดข้อสงสัยหรือคำถาม กับสิ่งเหล่านี้ว่าคืออะไร และ ทำไมการคั่วกาแฟต้อง มีระดับ และ แต่ละระดับต่างกันมากน้อยแค่ไหน

เริ่มแรกกว่าจะมาเป็นกาแฟแก้วโปรดส่งกลิ่นหอมให้ได้ดื่มกันนั้น กาแฟแก้วหนึ่งผลิตมาจาก เมล็ดกาแฟดิบ ที่เราเห็นกันตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งเมล็ดกาแฟเหล่านี้ไม่ได้มีรสชาติใด ๆ การคั่วกาแฟ จึงสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง  เฉกเช่นเดียวกัน เปรียบง่ายๆ เหมือนเรามีวัตถุดิบสักอย่างที่อยากจะรังสรรค์ ออกมาให้เป็นเมนู รสเลิศ ก็คงจะใช้วัตถุดิบอย่างเดียวทำให้อร่อยไม่ได้ คงต้องมีส่วนผสมอื่น เข้ามาทำให้รสชาติกลมกล่อม และ กลายเป็นอาหารอย่างที่หลายคนต้องการได้ การคั่วก็เช่นกันที่ตัวมันเองไม่สามารถสร้างความอร่อยในตัวเองได้ โดยปราศจากความช่วยเหลือจากสิ่งอื่น

            วันนี้จะพามาทำความรู้จักกับ กาแฟ และ ระดับการคั่ว ที่จะทำให้เมล็ดกาแฟนั้น ๆ มีสีที่แตกต่างกันออกไป  นอกจากสี กลิ่น และ รสที่แตกต่างแล้ว ก็ยังมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย มาในเรื่องของสี เมล็ดกาแฟไม่ได้มีเพียงสีดำสีเดียว แต่หากยังมีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเข้ม  จน ไปถึงสีดำ ซึ่งทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการคั่วกาแฟ รวมไปถึง อุณหภูมิอีกด้วย  ซึ่งระดับของการคั่วกาแฟไม่ได้แตกต่างหรือซับซ้อนกันอย่างที่หลายๆคนคิด

  ความแตกต่างของระดับการคั่วกาแฟ แบ่งออกเป็นดังนี้ 1) Light Roast  หรือ กาแฟคั่วอ่อน ลักษณะเมล็ดกาแฟเป็นสีน้ำตาลอ่อน และ ผิวแห้ง รสสัมผัส หากชงกาแฟรสสัมผัสจะออกมีความเปรี้ยว และ ได้กลิ่นของผลไม้ ซึ่งกลิ่นและรสชาติจึงสัมผัสได้และคงเหลือมากกว่ากาแฟคั่วเข้ม โดยนอกจากความเปรี้ยวที่มีแล้วอาจจะอมหวานหน่อยๆ เป็นรสชาติกาแฟที่มีเสน่ห์

ในลักษณะต่อไปเป็นแบบกลาง หรือ 2) Medium  Roast  หรือ กาแฟคั่วกลาง  ลักษณะเมล็ดกาแฟนั้น จะเป็นสีน้ำตาลกลาง ไปถึงน้ำตาลเข้ม แต่ผิวสัมผัสก็ยังคงแห้งอยู่ เช่นเดียวกับ คั่วอ่อน เพียงแต่จะลดความเปรี้ยว  และ ความหวานแบบผลไม้ไป แต่จะให้ความเข้มมากขึ้น ทั้งรสชาติและกลิ่น กาแฟในระดับนี้จะเป็นที่นิยมมาก เพราะรสชาติจะอบอวล และ หนักแน่นยามเมื่อเราได้สัมผัสเข้าไปในปาก

ในลักษณะสุดท้าย หรือ ระดับที่เรียกว่าคั่วเข้มลึก 3) Dark  Roast  หรือ คั่วเข้ม ลักษณะเมล็ดกาแฟ จะมีสีเข้มมากจนเกือบดำ  ผิวจะมีลักษณะแตกต่างจาก 2 ระดับแรก ที่จะไม่ได้แห้งแต่จะมีน้ำมันเคลือบผิวจนเป็นงา ระดับกาแฟนี้จะทำให้กาแฟสูญเสียรสชาติความเป็นผลไม้ไป และ จะมีความขมเข้ามาแทนที่

สรุปโดยง่ายความแตกต่างของ การคั่วกาแฟ ทั้ง 3 แบบนี้ คือ ลักษณะของเมล็ดกาแฟ ที่ ระดับ อ่อน และ ระดับกลาง จะมีความเป็นผิวแห้ง ส่วนในระดับเข้ม จะมีผิวคล้ายน้ำมันเคลือบ ด้านรสชาติก็แตกต่างกันไปตามลักษณะของกาแฟเมื่อโดนความร้อน คั่วอ่อน จะให้รสชาติ เปรี้ยว อมหวาน เหมือนผลไม้ คั่วกลางจะให้รสชาติคล้ายกับคั่วอ่อน แต่จะลดระดับความเปรี้ยวและความหวานไป ส่วนแบบสุดท้ายหรือ คั่วเข้ม จะให้ความขมที่ชัดเจน


ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *